ประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์

หน้าหลัก / ประชาสัมพันธ์ / ข่าวประชาสัมพันธ์

สรพ. ชูแนวคิด Compassionate Innovation ธีมงาน HA National Forum ปี 2569

Author : anurak Date : 24 มิ.ย. 2568
View : 37 Tags :

สรพ. เผยงาน HA National Forum ครั้งที่ 26 ประจำปี 2569 ชูแนวคิด Compassionate Innovation ชวนโรงพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขร่วมสร้างนวัตกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ

พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ สรพ. กล่าวในรายการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค HA Thailand เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เนื่องในโอกาสครบรอบ 16 ปีของการก่อตั้ง สรพ. โดยกล่าวถึงกรอบแนวคิดการจัดงานประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 26 ประจำปี 2569 ที่จะถึงนี้ว่า จะจัดขึ้นภายใต้ธีม “Compassionate Innovation: Shaping the Future of Care นวัตกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ สร้างมิติใหม่ของการดูแล” โดยเป็นการต่อยอดจากแนวคิดการประชุมครั้งที่ 25 “Building Quality and Safety Culture for the Future Sustainability” ที่ต้องการกระตุ้นให้บุคลากรสาธารณสุขสร้างพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่ดี ซึ่งเมื่อทุกคนมีวัฒนธรรมที่ดีแล้ว จึงจะก้าวทำเรื่องที่ท้าทายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม คือ Compassionate Innovation

พญ.ปิยวรรณ กล่าวว่า คำว่า Compassionate หมายถึงความใส่ใจ การดูแลด้วยหัวใจที่เข้าใจ เห็นอกเห็นใจและเคารพคุณค่าของชีวิตในทุกมิติ และถ้าเอามาอยู่ร่วมกับคำว่า Care หรือกระบวนการดูแลในวิชาชีพสาธารณสุข Compassionate จึงกลายเป็นการดูแลด้วยหัวใจที่เข้าใจ เห็นอกเห็นใจ เคารพคุณค่าของชีวิตในทุกมิติ ขณะที่ Innovation หรือนวัตกรรมนั้น คือการพัฒนาแนวคิด เทคโนโลยี หรือกระบวนการใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความครอบคลุมของการดูแล ซึ่งถ้าเป็นนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ Healthcare ก็คือนวัตกรรมเกี่ยวกับการดูแล เมื่อรวมกับคำว่า Compassionate จึงกลายเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นด้วยความใส่ใจ

พญ.ปิยวรรณ กล่าวอีกว่า องค์ประกอบของ Compassionate Innovation เป็นองค์ประกอบของผู้ผลิตกับผู้ใช้ ที่จะต้องหลงใหลใส่ใจซึ่งกันและกัน ผู้ผลิตหลงใหลใส่ใจในผู้ใช้ ก็จะมองความต้องการของผู้ใช้ว่าต้องการอะไรและอยากทำในสิ่งที่ตอบสนองให้ได้ ส่วนผู้ใช้เองก็หลงใหลและใส่ใจในผู้ผลิต อยากให้ผู้ผลิตได้ผลิตบางสิ่งบางอย่างตรงกับความต้องการและพร้อมที่จะให้ข้อมูล ดังนั้น Compassionate Innovation ในระบบบริการสุขภาพ ผู้ผลิตหรือผู้ส่งมอบระบบบริการสุขภาพอย่างบุคลากรสาธารณสุข จำเป็นที่จะต้องหลงใหลและใส่ใจในผู้รับบริการซึ่งก็คือผู้ป่วย คนไข้ สังคม ญาติ องค์ประกอบที่สำคัญนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง Innovation ใหม่ๆ ภายใต้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน

พญ.ปิยวรรณ กล่าวต่อไปว่า Compassionate Innovation มีลักษณะสำคัญๆ คือ 1. เป็น Empathy Driven Design เป็นการออกแบบด้วยความเข้าใจความต้องการลึกๆ ของผู้ใช้ ผู้ได้รับผลกระทบ จะออกแบบสิ่งใหม่ๆ อะไรต้องตอบโจทย์และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2. ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและความเท่าเทียม คำนึงถึงผลกระทบด้านบวกและด้านลบ รวมถึงความเป็นธรรมและไม่ละเลยกลุ่มเปราะบางที่มักจะถูกมองข้ามเสมอ เช่น คำนึงถึงผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ คำนึงถึงผู้ที่มักจะถูกมองข้าม หรือกลุ่มที่เปราะบางด้วยเสมอเวลานำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานใดๆ 3. Sustainable Change หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน นวัตกรรมที่ออกแบบ นอกจากคิดถึงในเรื่องของคน ต้องคิดถึงความยั่งยืนของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เป็นนวัตกรรมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีในระยะยาว ไม่ใช่แค่ชั่ววูบ ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่ม มีคุณค่าความหมายและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและสิ่งรอบตัว และ 4. เป็นการออกแบบนวัตกรรมที่เข้าใจแล้วก็คำนึงถึงมิติของผู้คน ต้องสร้างการมีส่วนร่วม หรือ Collaborative Mindset ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ ผู้ให้บริการ ชุมชนหรือภาคนโยบาย ก็จะสามารถทำให้เกิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง

ทั้งนี้ การออกแบบ Compassionate Innovation ต้องมีเป้าหมายคือเป็นนวัตกรรมที่ยกระดับผลลัพธ์สุขภาพ แต่ไม่ใช่แค่ยกระดับผลลัพธ์สุขภาพและธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเข้าใจ เป็นสายใยของความเป็นมนุษย์ที่ยังอยู่ในนวัตกรรม และต้องบูรณาการในทุกขั้นตอนของการดูแล ซึ่งการจะพัฒนาให้เกิดขึ้นได้นั้น มีหลักการ 2 ประการที่ต้องทำควบคู่กัน คือ 1. Quality 3.0 หรือการ Co-production สร้างการมีส่วนร่วมของผู้ป่วย ครอบครัว ชุมชน สังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและบุคลากรทางการแพทย์ ต้องร่วมกันแชร์วิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกันว่าอยากได้อะไร ต้องร่วมกันออกแบบ ต้องร่วมกันดำเนินการ ต้องร่วมกันติดตามผลที่เกิดขึ้น ต้องร่วมกันสนับสนุนแก้ไข และ 2. Sustainable Care โดยความต้องการทั้งหมดจะถูกวางดีไซน์มองถึงการดูแลประชาชนในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงประชาชนและผู้ป่วยในอนาคต มีการคำนึงถึงทั้งในเรื่องของ เศรษฐกิจ การเงิน สังคม และการทำให้เป็นระบบ นวัตกรรมที่ออกแบบมานั้นจึงจะเป็นนวัตกรรมที่มีคุณค่า มีความหมาย นำไปสู่การดูแลที่ยั่งยืน “ต้องผนวก 2 วิธีคิดนี้เข้าด้วยกันจึงได้นวัตกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ” พญ.ปิยวรรณ กล่าว

พญ.ปิยวรรณ ยังยกตัวอย่างนวัตกรรมที่เปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ คือ 1. ต้องออกแบบโดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงความต้องการ ประสบการณ์ ความรู้สึกของผู้รับบริการอย่างแท้จริง เพื่อให้การดูแลมีความเฉพาะเจาะจงและเหมาะสม 2.ต้องผสมผสานเรื่องของเทคโนโลยีกับหัวใจของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น AI หุ่นยนต์หรือระบบดิจิทัล ไม่สามารถแทนที่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แต่นวัตกรรมที่ใส่ใจจะสามารถเสริมสร้างให้ทีมดูแลรักษา สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่ลึกซึ้งกับผู้ป่วย ดังนั้น ไม่ว่าจะเทคโนโลยีใดๆ เราจะผสมผสาน Hi-Touch เข้าไปในกลไกเครื่องมือ 3. การใช้ Compassionate Innovation เสริมพลังทีมสาธารณสุขให้ดูแลด้วยหัวใจ หมายความว่านวัตกรรมที่สร้างมา จะเป็นนวัตกรรมที่ต้องช่วยลดภาระงาน ลดความเหนื่อยล้าของบุคลากร และสามารถสนับสนุนให้ทีม สามารถส่งมอบการดูแลอย่างอ่อนโยนและเปลี่ยนคุณภาพได้ 4. Inclusive and Equitable Solutions การสร้างความเท่าเทียมและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน เมื่อใดที่นำความใส่ใจมาสู่การออกแบบ เราจะคำนึงถึงความหลากหลายว่าแต่ละเพศ แต่ละวัย แต่ละพื้นที่ จะเข้าถึงเครื่องมือนี้อย่างไร แล้วมีความต้องการเฉพาะกลุ่มที่ต้องดูแลให้ครอบคลุมได้เป็นธรรมและเข้าถึงได้ และ 5. Resilience and Responsiveness การยืดหยุ่นและตอบสนองต่อวิกฤตในอนาคต นวัตกรรมที่เปี่ยมด้วยความเมตตาจะช่วยให้ระบบสุขภาพปรับตัวได้ทันท่วงทีในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด สังคมสูงวัย หรือการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยยังคงรักษาความเป็นมนุษย์และความสัมพันธ์ที่มีความหมาย

พญ.ปิยวรรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นนี้เป็นเพียงน้ำจิ้มสำหรับ Compassionate Innovation และจะได้รับฟังรายละเอียดอย่างเต็มอิ่มในงาน HA National Forum ครั้งที่ 26 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10-13 มีนาคม 2569 ที่จะถึงนี้ ณ อาคารอิแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี โดยโรงพยาบาลที่สนใจสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2569 ค่าลงทะเบียน 5,000 บาทเช่นเดิม